ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี ? แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานแค่ไหน ?

โบท็อกมีหลายยี่ห้อจากหลายประเภท ได้แก่

โบท็อกอเมริกา (Allergan) เป็นบริษัท Original ของโบท็อก มีงานวิจัยรับรองกว่า 3,500 งานวิจัย และผ่านการพัฒนาเพื่อที่มีฉีดโบท็อกไปแล้วจะมีโอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุด และเห็นผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ ค่ะ โบท็อกอเมริกาตัวยามีการกระจายตัวแคบที่สุด จึงให้ผลการรักษาที่แม่นยำ การฉีดโบท็อกอเมริกาเพื่อให้อยู่ได้นานและผลเป็นธรรมชาติที่สุด ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง สามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้แม่นยำด้วยค่ะ

โบท็อกอังกฤษ (Dysport) จุดเด่นของโบท็อกอังกฤษ คือเมื่อฉีดแล้วตัวยากระจายทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบๆ เหมาะกับการฉีดลิฟหน้าด้วยเทคนิค Dermolift เพื่อยกกระชับผิว สำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติจะตึงขึ้นประมาณ 50% นอกจากนี้จะนิยมใช้ Dysport ฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่อง

โบท็อกเกาหลี (Nabota/Aeslax) โบท็อกเกาหลีถือเป็นโบท็อกที่ได้รับความนิยม ทั้ง Nabota และ Aestox เลยค่ะ ส่วนใหญ่โบท็อกเกาหลีจะเน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไวเทียบเท่าโบท็อก Allergan(โบท็อกอเมริกา) แต่มีราคาที่ถูกกว่าเท่าตัว ซึ่งความแตกต่างของทั้ง 2 ตัวนี้ Nanota จะออกฤทธิ์ไว เห็นผลลัพธ์หลังฉีดค่อนข้างเร็ว นิยมนำมาใช้ในการลดริ้วรอย ส่วน Aestox เป็นโบท็อกเกาหลีอีกหนึ่งตัวที่ผ่าน อย.ไทย เห็นผลไว มีความอ่อนโยน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ นิยมฉีดเพื่อลดริ้วรอยหางตา รอยย่นหน้าผาก ระหว่างคิ้ว

โบท็อกเยอรมัน (Xeomin) โบท็อกเยอรมันจะเน้นพัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกัน คุณสมบัติมีความบริสุทธิ์สูงและตัวยาจะไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ทำให้ผลที่ได้ออกมาเป็นธรรมชาติ

ซึ่งโบท็อกของแต่ละยี่ห้อแต่ละประเภทจะมีระยะเวลาอยู่ได้ไม่เท่ากันค่ะ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ กรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์ ชนิด Protein complex หรือขนาดของ Molecule complex ตัวที่จะส่งผลให้โบท็อกแตกต่างกันมากที่คือ ขนาดของ Molecule complex size เพราะขนาดของโมเลกุลจะมีผลต่อการกระจายตัวยา ถ้าออกแบบให้กระจายตัวแคบ ผลของการฉีดก็จะแม่นยำตรงจุด ถ้าออกแบบให้กระจายตัวกว้างก็เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลรวดเร็วและใช้ฉีดในบริเวณกว้างเช่นน่อง