ชาเขียวมัทฉะที่กลมกล่อมและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์

ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ การดื่มมัทฉะ คือ การดื่มใบชาเขียวบดเป็นผงเข้าไปทั้งใบ โดยไม่มีการคัดแยกกากออก ไม่เหมือนการดื่มชาเขียวโดยทั่วไป ที่เราต้องใช้ตัวกรองใบชา เพื่อให้ ได้น้ำชาออกมา และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ ได้รับประโยชน์จากใบชามาแบบเต็มๆ แต่ก็แลกมากับความขม ซึ่งอาจจะทำให้บางคนรู้สึกว่าดื่มยากไปหน่อย ดังนั้นเมนูที่เหมาะกับชาเขียวมัทฉะจึงต้องมีการเติมนมลงไป เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น กลายมาเป็นมัทฉะลาเต้ เมนูชาเขียว มีส่วนผสมของ ชาเขียวมัทฉะ อยู่ด้วยเช่นกัน แต่มีอยู่ในปริมาณที่น้อย ทำให้ดื่มง่าย สดชื่น ลื่นคอกว่าการดื่มมัทฉะเพียวๆที่กระด้างมากกว่า แล้วชาเขียวมัทฉะก็ยังคงคุณประโยชน์ของมัทฉะไว้ในเวลาเดียวกัน ไม่เหมาะแก่การเติมนม เพราะไม่ได้มีความเข้มข้นมากพอ

ชาเขียวมัทฉะ เครื่องดื่มแก้วโปรดของใครหลายคน อุดมไปด้วยสารอาหารและมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ดังนี้

1. ช่วยเผาผลาญไขมัน กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น หัวใจสูบฉีดในอัตราที่ปกติ และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
2. ช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน ทำให้น้ำหนักที่สะสมอยู่ลดตามไปด้วย
3. ช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็งบางชนิดได้ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ที่จะช่วยป้องกันและลดอัตราความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ ได้ เช่น ปาก ไต ตับอ่อน กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ เต้านม และต่อมลูกหมาก
4. ช่วยป้องกันความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ หากดื่มเป็นประจำจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) ในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด
5. ช่วยป้องกันโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ หากดื่มชาเขียวจากธรรมชาติแท้ ๆ เป็นประจำ ไม่ผสมนม น้ำตาล หรือน้ำเชื่อม จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติได้
6. มีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปาก ช่วยลดกลิ่นปาก จากสารคาเทชินในชาเขียว ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้
7. ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทของสมองจากอายุที่เพิ่มขึ้น จากสารคาเทชิน ช่วยลดความผิดปกติและความบกพร่องทางสติปัญญา รวมถึงลดความเสี่ยงของโรคทางระบบประสาทที่อาจจะเกิดในผู้สูงอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์ หรือภาวะสมองเสื่อม และโรคพาร์กินสัน
8. ช่วยการทำงานของสมองให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ตื่นตัวจากคาเฟอีน และช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองในด้านต่าง ๆ เช่น อารมณ์ ความระมัดระวัง การตอบสนอง และความจำด้วย
9. ช่วยต้านการอักเสบ จากสารฟลาโวนอยด์ในชาเขียวมีคุณสมบัติต้านไวรัส ต้านแบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับการอักเสบต่าง ๆ ในร่างกายได้ รวมถึงช่วยปกป้อง DNA ของเซลล์อีกด้วย
10. ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ หากดิ่มเป็นประจำ